Design digested #1 Symmetry vs assymetry

อยากจะแต่งห้องให้เวลาเรามองแล้วรู้สึกเนียน สบายตา? แล้วถ้าเราอยากจะให้ห้องของเรามีจุดเด่นที่อยากจะเน้น? วันนี้ Design digested ขอนำเสนอหลักการแต่งห้องแบบสมมาตร ให้ทุกๆท่านได้ลองไปปรับแต่งกันดู

ความกลมกลืนของห้องมาจาก การตกแต่งโดยมีความสมมาตรทั้งจากลายผ้า รูปร่างเฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงกรอบรูปที่ตกแต่ง

หลายๆท่านคงเคยรู้สึกว่า เวลาเดินเข้าไปในห้องบางห้องนั้น บรรยากาศมันช่างดูกลมกลืนสบายตา ดูแล้วเหมือนทุกอย่างถูกออกแบบมาอย่างดี ให้สอดรับกัน สร้างความรู้สึกสงบ และ ไม่ distract เราออกจากสิ่งที่เราต้องการจะทำ ลองนึกถึงตัวอย่างเวลาเราไปที่ ห้องตกแต่งแนวมินิมอล หรือร้านนวดก็ได้ เวลาที่เราเข้าไปนั่งในห้องนั้นสายตา และสมาธิของเราจะไม่ได้อยู่ที่ตัวห้อง แต่ไปอยู่กับกิจกรรมที่เราทำ

ในขณะที่บางครั้ง เราจะรู้สึกว่า เวลาเดินเข้าห้องนั้นไป ไม่สามารถจะละสายตาออกจากของบางอย่างในห้องนั้นได้เลย ต้องคอยจ้องไปที่ตรงนั้น ตรงนี้ตลอด อาจจะเป็นรูปวาด หรือรูปปั้นหลักของห้องนั้น

หลักการที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบเหล่านี้คือ balance หรือสมดุลนั่นเอง โดยทาง Home Companion ขอนำเสนอหลักการทั้งสองแบบ ดังนี้

Symmetric Design หรือความสมมาตร

  • ลักษณะเด่น - สร้างความสงบ ความเป็นระเบียบ ความเป็นทางการ

  • จุดที่เน้น - จุดตรงกึ่งกลางระหว่างความสมมาตร ส่วนที่มีการติดรูปภาพ หรือป้ายโลโก้ไว้ เป็นต้น

  • วิธีการตกแต่ง - ให้เริ่มจากจุดที่ต้องการจะเน้น เช่น กรอบรูปภาพเจ้าของบ้าน หรือโต๊ะกินข้าว แล้วใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแกนกลาง หากหาจุดนั้นไม่เจอ ให้ลองดูว่าเวลาเดินเข้ามาในห้องอยากให้เห็นอะไรอย่างแรก เมื่อระบุจุดได้แล้ว ก็สร้างพื้นที่รอบข้างให้สมมาตรกันจากแกนกลางนั้นๆ

  • ข้อควรระวัง - หากทำให้เหมือนกันเป๊ะๆ ห้องอาจจะดูขาดเสน่ห์ไปได้ ซึ่งอาจจะแก้ไขด้วยการใช้ของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีความแตกต่างกันใน บางลักษณะ เช่น รูปร่าง เนื้อผ้า ขนาด หรือ สี เป็นต้น

ตัวอย่างของการใช้รูปร่างทรงสามเหลี่ยมในสีเดียวกับประตูไม้ เพื่อให้รักษาความเข้ากันโดยไม่จำเป็นต้องเป็นสี่เหลี่ยมไปหมด

Asymmetric Design หรือความไม่สมมาตร

  • ลักษณะเด่น - สร้างความไม่เป็นทางการ มีชีวิตชีวา ความน่าสนใจจากไอเดียของเจ้าของบ้าน

  • จุดที่เน้น - เป็นการผสมกันอย่างลงตัว ระหว่าง น้ำหนักของสายตา (visual weights), วัสดุที่ใช้ (textures) และสีสันของห้อง

  • วิธีการตกแต่ง - แทนที่จะเน้นจุดสนใจซักที่ในห้อง จะเป็นการทำ balance ขององค์ประกอบของทั้งห้อง ให้น้ำหนักของห้องไม่เทไปทางใดทางหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ให้เหมือนกันแบบเป๊ะๆ

  • ข้อควรระวัง - อาจจะเป็นการยากที่จะหาจุดที่พอดีในแต่ละห้อง ยิ่งถ้าเป็น built in furniture ควรจะวางแผนให้ดี และดู render ให้ชัดก่อนลงมือทำจริง

ตัวอย่างของการตกแต่งห้องแบบ Asymmetric ที่ใช้ลักษณะเด่นของวัสดุแต่งห้องที่หลากหลาย สร้างความสนุกและสีสันให้กับห้อง โดยยังควบคุมโทนสีของห้องให้ไปทางเดียวกันอยู่

Previous
Previous

designer companion #1: made-to-order Bean bag for interior designers